วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

จอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี




ประวัติจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เมื่อตอนเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เกิดนั้น มีปานดำที่หน้าอกดุจรอยเจิมด้วยเขม่าไฟ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติจึงให้นามว่า เจิม เนื่องจากบิดามารดาของเจ้าพระยาสุรศักดิ์ฯมีบุตรชายคนแรก อายุยังไม่ทันถึงขวบก็ถึงแก่กรรม ภายหลังเกิดบุตรีอีก 1คน มีอายุได้ 3 ขวบถึงแก่กรรมอีก ท่านเอี่ยมผู้เป็นยายมีความเศร้าโศกเสียใจยิ่งนัก ในเวลาที่จะยกศพลงบรรจุหีบ ท่านเอี่ยมเอาเขม่าหม้อป้ายลงที่หน้าอกศพ ร้องไห้คร่ำครวญสั่งว่า หลานจงกลับมาเกิดใหม่อีก ถ้ากลับมาเกิดให้มีรอยเขม่าหม้อหมายที่หน้าอกเป็นสำคัญ อยู่มาบิดามารดาเจ้าพระยาสุรศักดิ์ฯมีบุตรชายคือเจ้าพระยาสุรศักดิ์ฯมีตำหนิ ปานดำที่หน้าอกจึงได้ให้นามตามนิมิตนั้น เมื่อนายเจิมอายุ 5-6 ขวบ ได้เล่าเรียนวิชาชั้นต้นที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยผู้เป็นทวด พออายุได้ 11 ขวบมารดาถึงแก่กรรม ต่อมาบิดาได้ย้ายมาอยู่บ้านเดิมที่บ้านพระยาสุรเสนา(สวัสดิ์ ชูโต)ผู้ เป็นปู่ ไปฝากให้ศึกษาอักขรสมัยเบื้องต้นในสำนักพระวิเชียรมุนี วัดพิชัยญาติ เมื่ออายุ 13 ปี โกนจุกแล้วอุปสมบทเป็นสามเณร 1พรรษา ลาสิกขาแล้วบิดานำไปมอบให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง) แต่เมื่อยังเป็นพระยาศรีสุริยวงศ์ที่สมุหพระกลาโหม ให้ใช้สอยและฝึกหัดราชการ นอกจากนี้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ยังให้ฝึกหัดวิชาขี่ม้ารำทวน และยิงปืนกับวิชาอื่นๆ แล้วนำถวายตัวเป็นมหาดเล็กรัชกาลที่ 4 ได้เป็นมหาดเล็กวิเศษ สังกัดเวรฤทธิ์ ครั้งเสด็จสวรรคตแล้วก็อยู่กับสมเด็จพระเจ้ายาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ต่อไป ต่อมาได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในรัชกาลที่ 5 เป็นหลวงศัลยุทธวิธีกรร ในการทหารมหาดเล็ก แล้วเป็นจมื่นสฤษดิการ แล้วเป็นจมื่นไวยวรนารถ หัวหมื่นมหาดเล็ก เมื่อพ.ศ. 2430 เป็นพระยาสุรศักดิ์มนตรี จางวางมหาดเล็ก วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 โปรดฯให้เป็นเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯขอ ไร บุตรีเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒนพิพัฒนศักดิ์ (วร บุนนาค) พระราชทานให้เป็นภรรยา อยู่มา ไรถึงแก่กรรม เมื่อเป็นพระยาสุรศักดิ์มนตรีแล้วจึงขอเลี่ยมน้องสาวไรมาเป็นภรรยา อยู่ด้วยกันมาจนได้เป็นเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี และเลี่ยมก็ได้พระราชทานเครื่องราชอิสริยภรณ์ และเครื่องยศท่านผู้หญิงตามประเพณี เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีไม่มีบุตรธิดา ถึงอสัญกรรมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2474[แก้ไข] ผลงานและเหตุการณ์สำคัญ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกรมมหาดเล็กรักษาพระองค์ขึ้นเป็นครั้งแรก ท่านได้รับการบรรจุเป็นทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เป็นคนแรก มีหน้าที่อารักขาพระเจ้าแผ่นดิน ขณะออกต้อนรับชาวต่างชาติ และออกขุนนาง ต่อมาท่านได้เลื่อนตำแหน่งจนกระทั่งได้รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พ.ศ.2426 ได้ปราบโจรผู้ร้ายซึ่งก่อคดีอุกฉกรรจ์ชุกชุมที่เมืองสุพรรณบุรี ได้สำเร็จในเวลาอันสั้น พ.ศ. 2428 และพ.ศ.2430เป็นแม่ทัพไปปราบฮ่อ ณ หัวเมืองลาว และได้คิดค้นการ ผลิตลูกระเบิด ขึ้นใช้ในการรบ พ.ศ.2431 ปราบโจรผู้ร้ายที่หัวเมืองตะวันออก พ.ศ.2445เป็นแม่ทัพไปปราบเงี้ยวซึ่งก่อการจลาจล ในหัวเมืองฝ่ายเหนือ ผลงานของท่านที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดคือ ท่านเป็นผู้นำเอาไฟฟ้ามาใช้ในเมืองไทยเป็นคนแรก เมื่อ พ.ศ. 2427 ตั้งแต่ยังมีตำแหน่งเป็นจมื่นไวยวรนารถ โดยท่านได้นำมาจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จึงได้มีไฟฟ้าใช้กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา[ประวัติรับราชการ]มหาดเล็กหลวง ในรัชกาลที่ 4 ในตำแหน่งมหาดเล็กวิเศษ สังกัดขึ้นอยู่เวรฤทธิ์ ทหารมหาดเล็ก ในรัชกาลที่ 5 ยศนายร้อยตรี- พ.ศ.2416 นายร้อยโท และต่อมาเลื่อนขึ้นเป็นนายร้อยเอก- พ.ศ.2423 ผู้บังคับการกรมทหารหน้า และเป็นนายพันเอก- พ.ศ.2430 ผู้บัญชาการกรมยุทธภัณฑ์- พ.ศ.2431 นายพลตรี- พ.ศ.2433-2435 ผู้บัญชาการกรมทหารบก- พ.ศ.2437 เสนาบดีกระทรวงเกษตรพาณิชการ- พ.ศ.2439 เป็นเจ้าพระยา- พ.ศ.2441 นายพลโท- พ.ศ.2468 จอมพล ในรัชกาลที่ 6

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น