วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วิตามิน A


วิตามิน A เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน   มีอยู่ 2 ชนิด กล่าวคือ
  1. เรตินอล (Retinal) เป็นโมเลกุลของวิตามิน A ที่เกาะอยู่อย่างสลับซับซ้อน พบในเนื้อสัตว์ ไข่  นม
  2. เบตาคาโรทีน (Beta-Carotene) ประกอบด้วยวิตามิน A สองโมเลกุล พบในพืช โดยเฉพาะพืชใบเขียวจัดและพืชที่มีสีเหลืองแดง
     สำหรับข้อแตกต่างของเรตินอลกับเบตาคาโรทีนนั้น เบตาคาโรทีนสามารถละลายน้ำได้ จึงทำให้ร่างกายขจัดทิ้งเมื่อเกินได้ ในขณะที่เรตินอลร่างกายไม่สามารถขจัด    เมื่อเกินได้ จึงทำให้เกิดอาการคลืนไส้ เวียนศรีษะ
    สำหรับคนทั่วไปไม่ควรรับวิตามิน A เกิน 30,000ม.ก.ทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน ในขณะที่สตรีมีครรภ์ ถ้าได้รับเกิน 100,000 ม.ก. ต่อวัน จะเป็นเหตุให้เกิดความ      พิการในการตั้งครรภ์ได้
    ดังนั้น เพื่อหลีกเ ลี่ยงพิษที่เกิดขึ้น ควรกินวิตามินA ในรูปของเบตาคาโรทีน
ประโยชน์
  1. บำรุงสายตาและรักษาภูมิต้านทาน
  2. เบตาคาโรทีนมีบทบาทในการป้องกันมะเร็งผัวหนัง มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  3. ช่วยเสริมเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย
อาการเมื่อขาด
             ร่างกายจะแคระไม่โต ฟันจะผุง่าย ผมจะร่วง หนังศรีษะเป็นขุย มีรังแค ผัวจะแห้งเป็นเกล็ด จะเป็นสิวที่หลัง ต้นขา รูขุมขนใหญ่ เนื้อเยื่ออ่อนแอไม่แข็งแรง และยังทำให้เป็นหวัดง่าย ติดเชื้อทางหู ต่อมทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ เกิดอาการตาฟางในตอนกลางคืน นัยย์ตาแห้ง แดง อักเสบ อาจตาบวม ตาไม่สู้แสง อาจทำให้เป็นหมัน เป็นนิ่ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น