วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

พริกขี้หนูสด ลดการเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุของการตายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และหลายประเทศทั่วโลกโดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม เช่น การกินอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาการทอด ผัดที่ใช้น้ำมันมากๆ ฯลฯ แต่กินอาหารพวกผัก ผลไม้ ธัญพืช ที่มีเส้นใยน้อยเกินไป
ทั้งนี้รายงานการวิจัยพบว่าอาหารไทยเป็นอาหารสุขภาพ เพราะให้พลังงานและสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของสมุนไพรต่างๆ ซึ่งมีผลการศึกษาว่าสามารถช่วยลดการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ เช่น การลดไขมันในเลือด ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพริกซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหารไทยที่ช่วยเพิ่มลดชาติร้อนแรง ส่วนประกอบที่สำคัญที่ทำให้เกิดความเผ็ดของพริกก็คือ “ แคปไซซิน ” ซึ่งนอกจากจะให้ความเผ็ดร้อนแล้วยังมีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยา ช่วยบรรเทาให้อาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ เพิ่มการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร และที่น่าสนใจคือผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังพบว่าคนไทยที่กินพริกเป็นประจำมีอุบัติการณ์เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยกว่าคนในประเทศทางตะวันตก
ด้วยเหตุนี้นางสาวพัชราณี ไชยทา นักศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาโภชนศาสตร์ (ซึ่งเป็นหลักสูตรร่วมระหว่างคณะแพทศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล) ได้ทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง “ ผลของพริกขี้หนูต่อปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด” ภายใต้การดูแลของ ศ.นพ. สุรัตน์ โคมินทร์ หัวหน้าฝ่ายโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นผู้ควบคุมวิทยานิพนธ์
วิทยานิพนธ์ชิ้นนี้ได้ทำการศึกษาหญิงไทยจำนวน 50 คน ที่มีคุณสมบัติดังนี้คือ ระดับไขมันในเลือดสูง แต่มีสุขภาพโดยทั่วไปดี อายุระหว่าง 45 – 64 ปี และหมดประจำเดือนแล้ว แต่ไม่มีอาการของโรคเรื้อรังใดๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไตโรคกระเพาะอาหาร ไม่ได้รับประทานยาเป็นประจำ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดื่มกาแฟมากกว่า 2 แก้วต่อวัน และไม่กินพริกมากกว่า 10 กรัมต่อวัน จากการศึกษาหญิงกลุ่มนี้พบว่าระยะการกินพริกขี้หนูมีผลดีต่อปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ การลดระดับน้ำตาลกลูโคส เพิ่มอัตราเผาผลาญของร่างกาย มีแนวโน้มชะลอแรจับกลุ่มของเกล็ดเลือด และเพิ่มการละลายลิ่มเลือดโดยมีผลภายใน 30 นาทีหลังจากาการกินพริกขี้หนูสด
จึงนับว่าคนไทยโชคดีแล้วที่อาหารส่วนใหญ่อุดมไปด้วยพริก...แต่ควรกินแต่พอประมาณโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคกระเพาะลำไส้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น