แม้บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักธรณีวิทยาทั่วโลกจะยืนยันตรงกันว่า "แผ่นดินไหว" เป็นภัยพิบัติที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ เพราะแผ่นดินไหวเกิดจากเปลือกโลกเคลื่อนตัว มีการสะสมพลังแล้วปลดปล่อยออกมา บางครั้งอาจใช้เวลานานนับ 1,000 ปี และด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่มนุษย์สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงล่วงหน้าไม่เกิน 1 นาที จึงไม่สามารถเตือนภัยได้ทัน นักวิชาการรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งไม่ยอมจำนนต่อปัญหาดังกล่าว ด้วยเชื่อว่าระบบสุริยะ สามารถพยากรณ์แผ่นดินไหวได้ โดยมีเครือข่ายเป็นนักฟิสิกส์จากทั่วโลก เผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ โดยเฉพาะนักวิจัยจากองค์การนาซา (NASA) หรือ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ผลงานของคนกลุ่มนี้ สามารถค้นคว้าเชื่อมโยงให้เห็นว่าปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนอกโลกหรือในระบบสุริยะช่วยคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหววันใด ยกตัวอย่าง เหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน เมื่อปี 2551 มีผู้เสียชีวิตเกือบ 7 หมื่นคน ตอนนั้นมีรายงานกลุ่มเมฆสะท้อนแสงผิดปกติ หลังจากนั้นไม่ถึง 30 นาที ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ สั่นสะเทือนไปทั่วเอเชีย ไทย อินเดีย ปากีสถาน ต่างรับรู้ถึงแรงสั่นที่เกิดขึ้น นอกจากนี้นักฟิสิกส์นำโดย ศาสตราจารย์ ฟราน เดอ อาควิโน (Fran De Aquino) จากมหาวิทยาลัยมารานฮาว ประเทศบราซิล เชื่อว่า ความแปรปรวนของพลาสมาบนชั้นบรรยากาศ และการแปรปรวนในอวกาศ เป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหว !! เนื่องเพราะนักวิจัยค้นพบการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ "ไอโอโนสเฟียร์" (Ionosphere) ที่อยู่สูงจากโลกไป 50-500 กิโลเมตร ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาดเกิน 6 ริกเตอร์ประมาณ 1-2 วัน ชั้นบรรยากาศ "ไอโอโนสเฟียร์" มักเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อธิบายตามหลักฟิสิกส์ได้ว่า พลังงานในชั้นนี้มีความสัมพันธ์ระหว่างการแกว่งตัวของสนามแม่เหล็ก ดร.ก้องภพ ได้ส่งข้อมูลเตือนภัยให้ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวในไทย เขาพยากรณ์แผ่นดินไหวจากการใช้เทคโนโลยีระดับสูงที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เกี่ยวข้องกับ "ระบบสุริยจักรวาล" ...เมื่อดาวเรียงตัวกันอย่างน้อย 2 ชุดจะเกิดแผ่นดินไหวในโลกมนุษย์ หลายครั้งที่คำพยากรณ์ของเขาแม่นยำ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อกลางปีที่แล้ว หากย้อนไปเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 "ดร.สมิทธ ธรรมสโรช" ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ล่วงหน้าว่า อีก 1เดือนหรือประมาณวันที่ 12 มิถุนายน จะเกิดปรากฏการณ์ดาวเรียงตัวกัน 2 ชุด หมายความว่า ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก เรียงตัวในแนวเดียวกัน พร้อมๆ กับ โลก ดาวพฤหัส ดาวยูเรนัส ก็อยู่ในตำแหน่งเรียงตัวด้วย ทำให้เกิดพลังมหาศาลส่งมายังโลกและอาจเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7-8.5 ริกเตอร์ คำเตือนนี้สร้างความกังวลใจให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลภาคใต้พอสมควร เพราะมีการอ้างอิงข้อมูลจากองค์การนาซา (NASA) อีกด้วย แต่ ดร.สมิทธ ก็ถูกต่อต้านจากนักวิชาการหลายกลุ่ม ที่ออกมายืนยันว่าการเรียงตัวของดาว ไม่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว และสนามแม่เหล็กโลกก็ไม่ส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายฉับพลันจนท่วมโลกด้วย สอดคล้องกับสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติที่ระบุว่า การเรียงตัวของดาวเคราะห์ไม่มีอิทธิพลต่อแรงดึงดูดของโลก จะมีก็เพียงปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเท่านั้น จนกระทั่งตีสี่ของวันที่ 13 มิถุนายน 2553 ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริกเตอร์ ในมหาสมุทรอินเดีย จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองมิชาบนหมู่เกาะนิโคบาร์ไปทางตะวันตก 155 กิโลเมตร มีรายงานแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริกเตอร์ในทะเลอันดามัน ศูนย์กลางห่างภูเก็ต 817 กม. แรงสั่นสะเทือนไปไกลกว่า 1,000 กม. ชาวบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เกือบ 2,000 คน อพยพออกมาจากหมู่บ้านเพราะกลัวคลื่นยักษ์สึนามิ ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุฯ แจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหววัดได้ 3.7 ริกเตอร์ ที่ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี การทำนายแผ่นดินไหวข้างต้น สร้างความสงสัยให้ประชาชนว่า เป็นความแม่นยำหรือความบังเอิญ !?! "อารี สวัสดี" กรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เคยอธิบายเรื่องนี้ว่า การเรียงตัวของดาวเคราะห์ระยะทางยิ่งไกลเท่าไรก็ส่งผลถึงโลกน้อยลง ส่วนปรากฏการณ์ดาว 3 ดวงที่เรียงตัวจะสัมพันธ์กับแผ่นดินไหวหรือไม่ คงต้องมีสถิติรองรับ ไม่เช่นนั้นจะไม่ใช่งานวิจัย ที่น่าสนใจเพราะโลกเกิดมาได้ 4,500 ล้านปี มนุษย์เพิ่งเกิดมาได้เพียง 1 ล้านปี ถือเป็นความรู้ใหม่ในการนำตำแหน่งดวงดาวมาอ่านความหมายด้านภูมิศาสตร์ ล่าสุดกลุ่มที่เชื่อว่าระบบสุริยะทำนายแผ่นดินไหวได้กำลังลุ้นปรากฏการณ์ "ซูเปอร์มูน" (super moon) คือ ระยะที่ดวงจันทร์โคจรมาใกล้โลกที่สุดในรอบ 18 ปี มีระยะห่างเพียง 3.6 จากปกติที่อยู่ห่าง 3.8 แสนกิโลเมตร จะเกิดในวันที่ 19 มีนาคมนี้ เขาเชื่อว่า เมื่อดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกจะเกิดความโกลาหล ทั้งพายุรุนแรง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดและภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆ รวมถึงคลื่นยักษ์สึนามิด้วย ซูเปอร์มูนเคยเกิดขึ้น 2 สัปดาห์ก่อนคลื่นสึนามิถล่มฝั่งอันดามันของไทยเมื่อ 26 ธันวาคม 2547 ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยืนยันกับ "คม ชัด ลึก" ว่า ปรากฏการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6-9 ริกเตอร์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปี 2554 นั้นที่จริงแล้วมีนักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งสามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า และส่งข้อมูลมาทางอีเมล เมื่อตรวจพิสูจน์ก็พบว่าเกิดใกล้เคียงกับคำพยากรณ์จริง โดยเชื่อมโยงกับระบบสุริยะ เช่น ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ ก็มีอีเมลมาเตือนล่วงหน้าในเวลาใกล้เคียงมาก และในวันที่ 18-19 มีนาคมนี้ จะมีแผ่นดินไหวรุนแรงอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าส่วนไหนของโลก ?!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น