วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

คนที่มีอายุยืนที่สุดในโลก มีอายุถึง 256 ปี





นายลีชุนยุง ชาวจีนผู้เกิดในปี ค.ศ. ๑๖๗๗ และตายในปี ๑๙๓๓ สิริรวมอายุได้ ๒๕๖ ปี! เขาเป็นผู้ลบล้างความเชื่อหลายต่อหลายประการ นับแต่ความเชื่อว่าคนเราควรมีอายุได้สูงสุดไม่เกิน ๑๒๐ ตลอดไปจนกระทั่งความเชื่อว่าคนแก่ต้องหลังโก่ง ผิวหนังเ่ยวย่นเสมอ เพราะจนตายนายลีก็ยังสุขภาพแข็งแรง หลังตรง หนังตึง สายตาไม่ฝ้าฟาง เส้นผมกับฟันยังเป็นของแท้ตามธรรมชาติ ไม่มีใครเห็นเขามีสภาพเกินชายวัย ๕๐ เลยด้วยซ้ำ!รัฐบาลจีนรับรู้ว่าลีชุงยุนมีตัวตนตอนเขาอายุ ๑๕๐ คือมีคนของทางการพบเห็นและให้คำรับรองได้ว่าเป็นผู้สูงอายุแล้ว แต่เขายังคงอยู่ต่อมาได้อีกกว่าศตวรรษ เพราะฉะนั้นอย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องมีอายุเกินธรรมดาไปมากๆ เมื่อประกอบกับหลักฐานแสดงความมีตัวตนในช่วงศตวรรษที่ ๑๗ ก็พอทำให้เชื่อมั่นว่ากรณีของนายลีไม่ใช่การปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาแน่ๆนาย ลีเน้นการประพฤติปฏิบัติตนไว้หลายอย่าง นับแต่การรู้จักมีอิริยาบถที่ถนอมสภาพความเยาว์วัยไว้นานๆ เช่นกล่าวเชิงอุปมาอุปไมยให้นั่งนิ่งเหมือนเต่าหมอบ เดินเหินปราดเปรียวกระฉับกระเฉงเหมือนนกพิราบ นอนหลับสนิทเหมือนสุนัข แล้วก็มีหัวใจที่สงบเงียบในการดำรงชีวิตนอกจากนั้นนายลียังเป็น มังสวิรัติ แล้วก็เป็นคนรอบรู้ในเรื่องการใช้สมุนไพรอย่างหาตัวจับได้ยาก คือเชี่ยวชาญเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะ ประเภทที่ทำให้ธาตุไฟภายในยังทำงานเผาผลาญ ช่วยกระตุ้นให้ระบบประสาทตื่นตัวได้ตลอด เขากินอาหารสมุนไพรทุกวันจนตาย นักวิทยาศาสตร์เอามาวิเคราะห์ดูก็พบว่าเป็นอาหารจำพวกกรดอะมิโนในธรรมชาติ ซึ่งร่างกายผลิตได้เองอยู่แล้ว แถมยังเจอดาษดื่นในอาหารที่เราๆกินกันนี่แหละ ความแตกต่างคือสารช่วยยืดอายุเหล่านั้นถูกทำลายไปในขณะปรุงอาหารเสียหมด คนทั่วไปเลยชะลอนาฬิกาชีวิตไม่ค่อยอยู่ทั้งวิธีการดำรงชีวิตและการใช้ยาอายุวัฒนะ รวมกันทำให้ลีชุงยุนไม่รู้จักแก่ และเป็นการเลือกมีอายุยืนด้วยความจงใจ มิใช่ความบังเอิญการ มีตัวตนอยู่จริงของลีชุนยุงบอกเราว่าถ้าอยากอยู่นานจริงๆ อีกทั้งแข็งแรงปราศจากความร่วงโรยของสังขาร ก็ต้องมีวิธีดำรงชีวิตด้วยความแตกต่างจากการปล่อยปละเลยตามเลย ไม่ว่าจะเรื่องของการเดินเหิน ไม่ว่าจะเรื่องของหยูกยาอาหาร ล้วนแล้วแต่ประคองให้ร่างนี้อยู่ได้เกินสองร้อยปี หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต่ำกว่า ๑๒๐ ปี ไม่ใช่แค่ ๔๐ ก็เตรียมจอดเหมือนอย่างหนุ่มสาวหลายต่อหลายคนในยุคปัจจุบันลอง จินตนาการดู หากเราเป็นคนใกล้ชิดของนายลีในช่วงที่เขาอายุสักร้อยเศษ เกิดมาก็เห็นนายลีมีอายุมากแล้ว แต่พอเราอายุมากขึ้นจนเกือบ ๖๐ รอมร่อ นายลีก็ไม่ตายสักที แถมดูดีกว่า แข็งแรงกว่า ทำอะไรได้มากกว่าเราเสียอีก เราคงไม่คิดอย่างไรอื่นนอกจากเห็นเขาเป็นมนุษย์อมตะ และเมื่อเราถึงเวลาปิดฉากชีวิตขณะอายุสัก ๗๐ ก็คงตายไปพร้อมกับความเชื่อว่าชีวิตอมตะมีจริง มนุษย์ที่ไม่รู้จักแก่ ไม่รู้จักตายมีจริง แถมแข็งแรงและธาตุยังดีขนาดมีเมียได้เรื่อยๆถึง ๒๔ คนทว่า เราอยู่ในยุคที่ลีชุนยุงล่วงลับไปแล้ว ก็ต้องมาถึงจุดสรุป ถึงจุดที่เห็นตามจริงว่า ชีวิตนั้น ต่อให้ชะลอยืดยาวออกไปเพียงใด ในที่สุดก็ต้องพบกับสัจจธรรมเหมือนกันหมด คือต้องมอดม้วยมรณังกันถ้วนหน้า มนุษย์อายุยืนที่สุดในโลกเช่นนายลีชุนยุงเหมือนเกิดมาเพื่อยืนยันแทน ธรรมชาติ ว่าสัจจะสูงสุดข้อแรกของการเป็นมนุษย์คือ ‘อย่างไรก็ต้องตายแน่ๆ’อายุขัย ที่แตกต่างทำให้แต่ละคนมีเวลาสั่งสมกรรมผิดแผกจากกัน นอกจากนั้นยังมีโอกาสสั้นยาวไม่เท่ากันในอันที่จะเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับ ชีวิต สุดแต่ใครจะคิดว่าความจริงสูงสุดอยู่ที่ไหน ควรใช้เวลาในชีวิตเพียงใดเพื่อเข้าให้ถึงความจริงนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น