วิตามิน A เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน มีอยู่ 2 ชนิด กล่าวคือ
- เรตินอล (Retinal) เป็นโมเลกุลของวิตามิน A ที่เกาะอยู่อย่างสลับซับซ้อน พบในเนื้อสัตว์ ไข่ นม
- เบตาคาโรทีน (Beta-Carotene) ประกอบด้วยวิตามิน A สองโมเลกุล พบในพืช โดยเฉพาะพืชใบเขียวจัดและพืชที่มีสีเหลืองแดง
สำหรับข้อแตกต่างของเรตินอลกับเบตาคาโรทีนนั้น เบตาคาโรทีนสามารถละลายน้ำได้ จึงทำให้ร่างกายขจัดทิ้งเมื่อเกินได้ ในขณะที่เรตินอลร่างกายไม่สามารถขจัด เมื่อเกินได้ จึงทำให้เกิดอาการคลืนไส้ เวียนศรีษะ
สำหรับคนทั่วไปไม่ควรรับวิตามิน A เกิน 30,000ม.ก.ทุกวันเป็นเวลาหลายเดือน ในขณะที่สตรีมีครรภ์ ถ้าได้รับเกิน 100,000 ม.ก. ต่อวัน จะเป็นเหตุให้เกิดความ พิการในการตั้งครรภ์ได้
ดังนั้น เพื่อหลีกเ ลี่ยงพิษที่เกิดขึ้น ควรกินวิตามินA ในรูปของเบตาคาโรทีน
ประโยชน์
- บำรุงสายตาและรักษาภูมิต้านทาน
- เบตาคาโรทีนมีบทบาทในการป้องกันมะเร็งผัวหนัง มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยเสริมเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย
อาการเมื่อขาด
ร่างกายจะแคระไม่โต ฟันจะผุง่าย ผมจะร่วง หนังศรีษะเป็นขุย มีรังแค ผัวจะแห้งเป็นเกล็ด จะเป็นสิวที่หลัง ต้นขา รูขุมขนใหญ่ เนื้อเยื่ออ่อนแอไม่แข็งแรง และยังทำให้เป็นหวัดง่าย ติดเชื้อทางหู ต่อมทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ เกิดอาการตาฟางในตอนกลางคืน นัยย์ตาแห้ง แดง อักเสบ อาจตาบวม ตาไม่สู้แสง อาจทำให้เป็นหมัน เป็นนิ่ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น