วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

10 อันดับโรงแรมที่แปลก



อันดับ 1 The Giraffe Manorโรงแรม Giraffe Manor คือโรงแรมสุดหรูและพิเศษสุด ตั้งอยู่นอกเมืองไนโรบิ เมืองหลวงของประเทศเคนย่า จุดเด่นของที่นี่ก็คือ มันตั้งอยู่กลางฝูงยีราฟนั่นเอง คุณสามารถดื่มด่ำกับการทานอาหารพร้อมกับหลบคอที่ยืดยาวของยีราฟที่ยื่นเข้ามา และจากเว็บไซต์ของโรงแรม ที่นี่คงเป็นที่เดียวในโลกที่คุณสามารถให้อาหารและถ่ายรูปยีราฟได้จากโต๊ะอาหารเช้าและหน้าห้องพักของคุณ


2 The Daspark hotelที่นี่อาจจะดูไม่สะดวกสบายนัก แต่โรงแรม Daspark คือการปฏิวัติรูปแบบที่พักใหม่ที่ผู้คนมากมายเริ่มชื่นชอบ โรงแรมนี้มีอยู่ที่เมือง Ottensheim ประเทศ Austria ห้องพักของที่นี่สร้างจากท่อระบายน้ำขนาด 10 ตัน และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ฟุต ให้คุณได้พักผ่อน


อันดับ 3 The Harbour Craneโรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Harlingen ห่างจากเมือง Amsterdam เพียง 1 ชั่วโมง โดยห้องพักของคุณจะลอยอยู่เหนือพื้นสูงขึ้นไปบนห้องควบคุมเครนขนาดยักษ์ และคุณยังสามารถควบคุมเครนนี้ได้ทุกอย่างจากภายในห้องพักของคุณ


อันดับ 4 Dog Bark Parkโรงแรมที่เป็นที่ชื่นชอบของคนที่รักสุนัขแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง Cottonwood รัฐ Idaho ด้วยรูปร่างของโรงแรมที่ถอดแบบมาจากเจ้าสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล แขกที่มาพัก สามารถเข้าไปในตัวเจ้าบีเกิ้ลนี้จากทางเข้าที่อยู่ตรงระเบียงชั้น 2 การตกแต่งภายในนั้นออกแบบมาให้ลงตัวกับรูปแบบของโรงแรมนี้โดยเฉพาะ


อันดับ 5 Hotel Everlandที่นี่น่าจะเป็นที่สุดหรูเพียงแห่งเดียวที่คุณคิดถึง เพราะโรงแรมนี้มีเพียงห้องเดียว ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ Palais de Tokyo โดยในโรงแรมจะมีทั้งห้องน้ำ เตียงขนาดคิงไซส์และเล้าจ์ พร้อมวิวสุดสวยของเมืองปารีส Seine และหอไอเฟลที่ประดับไฟสวยงามยามค่ำคืน คุณสามารถจองที่พักที่นี่ผ่านทางเวบไซต์ โดยจะสุ่มเวลาเปิดให้จองเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น


อันดับ 6 Marmara Antalyaด้วยการผสมผสานระหว่างตุรกีและยุโรป โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Antalya ตุรกี โรงแรมนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวที่สวยงาม การดีไซน์ที่ลงตัว และการบริการที่อบอุ่น จุดเด่นเหนืออื่นใดของโรงแรมนี้ก็คือ ทุกๆห้องพักจะหมุนไปเรื่อยๆแบบช้าๆ เพื่อให้สามารถซึบซับกับวิวสวยงามได้แบบ 360 องศา


อันดับ 7 Cappadocia Hotelสำหรับโรงแรมนี้ก็ยังคงอยู่ที่ตรุกีเช่นกัน โรงแรมนี้สร้างโดยการขุดเข้าไปบนหน้าผาของภูเขา Yunak Evleri ห้องพักแต่ละห้องออกแบบมาเป็นถ้ำเหมือนในการ์ตูนฟลิ้นสโตน โรงแรมนี้สร้างเสร็จพร้อมกับห้องพักจำนวน 30 ห้องที่พาคุณกลับไปสัมผัสบรรยากาศสมัยยุค 1400 - 1500 ปีก่อน


อันดับ 8 Hobbit Motelโรงแรม Hobbit นี้ตั้งอยู่ที่ Woodlyn Park นิวซีแลนด์ โดยเหมือนกับบ้านที่เหล่า Hobbit จากเรื่อง Lord of The Rings อยู่ คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสงบสุขของเหล่าฮอบบิทในนิยายยอดฮิตของ J.R.R. Tolkien ได้ที่นี่


อันดับ 9 Out ‘n’ About Treesort & Treehouse Instituteเพียงแค่ออกจากเมือง Cave Junction, Oregon มานิดเดียว โรงแรมนี้เสนอบ้านพักสุดหรูที่คุณฝันไว้ในวัยเด็กเพียง 18 หลัง แต่ละหลังมีทั้งห้องน้ำและตู้เย็น บางหลังสูงจากพื้นดินถึง 300 ฟุต ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพักผ่อนสบายในวันหยุดบนบ้านต้นไม้อีกแล้ว


อันดับ 10 Wagon Stays.อีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจในนิวซีแลนด์อยู่ที่เมือง Christchurch แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คุณสามารถพักอยู่บนรถม้าที่มีพร้อมทั้งห้องน้ำ ห้องครัว และทีวีดาวเทียม โรงแรมนี้ให้บรรยากาศที่พักบนรถม้าที่ผสมกับความทันสมัยอย่างลงตัว เพื่อความสุขของแขกที่มาพักทุกคน

10 อันดับราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุด

ลำดับที่ 1.King Bhumibol Adulyadej of Thailand พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์) โดย พระราชทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นนี้สืบเนื่องจากความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั่นเอง
ลำดับที่ 2.Sheikh Khalifa bin Zayed Al Nahyan of the United Arab Emirates ชีค คาลิฟา บิน ซา** อัล นาห์ยาน แห่งอาบูดาบี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) มีพระราชทรัพย์ประมาณ 23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ความ มั่งคั่งของพระองค์เกิดจากการที่เมืองอาบูดาบีเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำมันสำรองคิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนั้น อาบูดาบียังมีชื่อเสียงเนื่องมาจากการลงทุนระดับแนวหน้าโดยบรรษัทที่รัฐเป็นเจ้าของนั่นคือเงินลงทุน 7.5 พันล้านเหรียญฯ ในบริษัท Citibank
ลำดับที่ 3. King Abdullah bin Abdul Aziz of Saudi Arabia กษัตริย์อับดุลลาห์ บิน อับดุล อาซิซ แห่งซาอุฯ ทรงมีทรัพย์สินประมาณการที่21.5 พันล้านเหรียญฯ รายได้มหาศาลของพระองค์ได้มา จากอุตสาหกรรมน้ำมันที่ซาอุดีอาระเบีย มีส่วนการผลิตถึง 25 % ของแหล่งน้ำมันทั่วโลก และธุรกิจการบินของสายการบินซาอุดี อาระเบียนส์ แอร์ไลน์ แต่อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์กันว่าแหล่งน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย จะหมดลงในปีค.ศ.2040 หรืออีกใน 32 ปี ข้างหน้านี้
ลำดับที่ 4. Sultan Haji Hassanal Bolkiah of Brunei สุลต่านแห่งบรูไน ซึ่งเป็นกษัตริย์จากเอเชียจากสองประเทศที่เข้าทำเนียบราชวงศ์ที่รำรวยของฟอร์บ ราชทรัพย์ของสุลต่านแห่งบรูไน (ทรัพย์สิน 20 พันล้านเหรียญฯ) ลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้องลดอัตราการผลิตน้ำมันเนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันในประเทศบรูไน ลดลง โดยฟอร์บระว่า กิจการน้ำมันนั้นเป็นมรดกตกทอดของราชวงศ์บรูไนซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี
ลำดับที่ 5. Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum of Dubai ชีค โมฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มาคทูม แห่งดูไบ ทรงมีพระราชทรัพย์สุทธิ 18 พันล้านเหรียญฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Dubai Holding ซึ่งมี การลงทุนใหญ่ๆ ในหลายบริษัท เช่น โซนี่ และบริษัทผลิตอาวุธ EADS และเมื่อเร็วๆ นี้กองทุนรวมเพื่อการลงทุนของชีคพระองค์นี้ได้ใช้ เงิน 5 พันล้านเหรียญฯ เพื่อถือหุ้นในบริษัท MGM Mirage และ 825 ล้านเหรียญฯ เพื่อซื้อกิจการค้าปลีก Barneys New York และทรง เข้ามาซื้อหุ้นใหญ่สุดของสโมสรในอังกฤษอีกด้วย
ลำดับที่ 6. Prince Hans-Adam II von und zu Liechtenstein of Liechtenstein เจ้าชายฮันส์ อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ มีพระราชทรัพย์ทรัพย์ประมาณการ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่ LGT Bank ซึ่งเป็นแหล่ง ทุนหลักของพระองค์ (บริหารโดยราชวงศ์มากว่า 70 ปี)ตกเป็นเป้าในคดีหลีกเลี่ยงภาษีอันอื้อฉาว ซึ่งบริษัทของพระองค์ถูกกล่าวหาว่า ช่วยเหลือลูกค้าฐานะดีหลายรายในการ “ซุกซ่อน” ทรัพย์สิน จากการสืบสวนของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ พบว่าพระอนุชาของพระองค์ (เจ้าชายฟิลิป) มีส่วนเกี่ยวข้องในการนี้ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานของ LGT
ลำดับที่ 7. Sheikh Hamad bin Khalifa Al Thani of Qatar ชีค ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล ธานี่ มีทรัพย์สินโดยประมาณรวม 3พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูลหาได้เท่านี้ครับ)
ลำดับที่ 8. King Mohammed VI of Morocco กษัตริย์โมฮัมหมัดที่ 6 แห่งประเทศโมร็อกโก ขณะนี้มีทรัพย์สินรวม 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญฯ เนื่องจากภัยแล้งที่รุนแรงส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศชะลออยู่ที่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้มาจากการทำเหมืองแร่ ฟอสเฟต, เกษตรกรรมและทรงร่วมหุ้นกับบริษัทMorocco's largest public company, o­nA.
ลำดับที่ 9. Princes Albert II of Monaco เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ยังไม่อภิเษกสมรส และถูกร่ำลือว่าทรงส่งแฟนสาวของพระองค์เข้าเรียน คอร์สติวเข้มภาษาฝรั่งเศส พระองค์มีพระราชทรัพย์ประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญฯ ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นส่วนกิจการ คาสิโนในโมนาโก พร้อมทั้งทรงวางแผนที่จะขยายพื้นที่ของประเทศ (ซึ่งมีขนาดเท่ากับ Central Park ในนิวยอร์ก) โดยการสร้างเขต ปกครองใหม่ในทะเลซึ่งจะตั้งอยู่บนเสาขนาดมหึมา โครงการดังกล่าวนี้สร้างความวิตกกังวลแก่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่พอสมควร
ลำดับที่ 10. Sultan Qaboos bin said of Oman มีพระราชทรัพย์สุทธิ 1พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สุลต่านกาบุส ทรงขึ้นครองราชเมื่อปี1970 หลังสิ้นสุดอำนาจของผู้เป็นพ่อ สุลต่านกาบุสได้ ทรัพย์สินจากการส่งออกน้ำมัน ปัจจุบันพระองค์ได้หันมาทำธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ